ทัพมังกรแดงสิ้นสุดการรอคอยในการลงสนามระดับเมเจอร์ 64 ปีหลังเบียดชนะยูเครน

หลังจากที่ต้องรอคอยมาถึง 64 ปี ในที่สุด ทีมชาติเวลส์ ก็สามารถตีตั๋วไปเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จจากการเปิดสนามคาร์ดิฟฟ์ซิตี้เฉือนชนะทีมชาติยูเครน 1-0 ในศึกฟุตบอลโลกรอบเพลย์ออฟ ทำให้ทัพมังกรแดงผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958

ศึกเพลย์ออฟฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติ Ukraine ทื่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมชาติสก็อตแลนด์เมื่อ 4 วันก่อน พบกับทีมชาติเวลส์ที่ตั้งหน้าตั้งตาเข้าไปเล่นศึกฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 1958 หลังเพิ่งโชว์ผลงานน่าประทับใจในศึกฟุตบอลยูโร 2020 ที่ผ่านมา

ทัพมังกรแดงเก่งบวกเฮงซัดประตูโทนคว้าชัย

ประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งเวลาแรกจากฟรีคิกของ Gareth Bale กัปตัน ทีมชาติเวลส์ ที่ปั่นฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายไปแฉลบตัวของอันเดรย์ ยาร์โมเลนโก กัปตันทีมชาติยูเครนเข้าประตูไปแม้ก่อนหน้านี้ผู้มาเยือนจะเป็นฝ่ายคุมเกมได้เหนือกว่ามาโดยตลอดก็ตาม

ส่วนในช่วงครึ่งหลังของเกมทั้งสองฝ่ายต่างเปิดหน้าแลกกันอย่างสนุก รวมไปถึงการพลาดโอกาสทองของเบล และการยิงชนเสาของเบรนแนน จอห์นสัน แข้งตัวสำรอง ในขณะที่ทางทีมชาติยูเครนเองก็มีโอกาสที่จะทำประตูตีเสมอหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ผ่านมือของเวย์น เฮนเนสซีย์ นายด่านทัพมังกรแดงที่โชว์ฟอร์มได้อย่างมหัศจรรย์ในเกมนี้ รวมไปถึงเกมรับที่เหนียวแน่นของเบ็น เดวีส์

ในเกมนี้เวลส์อาจทำผลงานได้ไม่ยอดเยี่ยมเหมือนกับนัดก่อน ๆ แต่ก็ยังสามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการมาครองได้สำเร็จ ซึ่งภาพบรรยากาศการฉลองชัยในสนามคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดียมก็แสดงให้เห็นถึงความสุขแบบสุดขีดหลังจากที่ประเทศของตนไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศฟุตบอลโลกเลยนับตั้งแต่เมื่อ 64 ปีก่อน ทำให้ตอนนี้ทัพเวลส์สามารถเข้าไปเล่นศึกฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศกาตาร์ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ได้สำเร็จ โดยจะได้อยู่ร่วมกลุ่มกับ ทีมชาติอังกฤษ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา และทีมชาติอิหร่าน

แม้เป็นผู้แพ้แต่ได้ใจแฟนบอลบ้านเกิด

ด้านทีมชาติยูเครนการที่สู้อย่างสุดความสามารถแม้จะต้องประสบปัญหาภัยสงครามที่บ้านเกิดนั้นถือว่าเป็นแรงบันดาลใจอันยอดเยี่ยมอย่างที่สุด

ทัพนักเตะได้รับกำลังใจจากแฟนบอลอย่างล้นหลามที่สนามคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดียม รวมไปถึง ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน กว่า 100 ชีวิตที่ได้รับตั๋วเข้าชมฟรีจากสมาพันธ์ฟุตบอลเวลส์ ขณะที่ด้านแฟนบอลเจ้าบ้านก็แสดงความให้เกียรติกับผู้มาเยือนด้วยการปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่นก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั้นมีได้เพียงทีมเดียว และถึงมันจะฟังดูโหดร้าย แต่ทัพนักเตะเวลส์เองก็เล่นอย่างเต็มที่หวังในชัยชนะและคว้าตั๋วฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาครองให้ได้ เพราะมันคือความฝันที่เฝ้ารออันยาวนานของคนทั้งประเทศ ซึ่งพวกเขาก็ทำสำเร็จในที่สุด

ในที่สุดก็ถึงฝั่งฝันหลังได้แต่เฉียดไปเฉียดมา

การผ่านไปเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์จะเป็นการเข้าไปเล่นฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของเวลส์เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 1958 ก่อนหน้านี้การเดินทางของทัพมังกรแดงทำได้แต่เพียงเฉียดเข้าใกล้ความฝันอยู่ตลอดแต่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นศึกที่สกอตแลนด์เมื่อปี 1977 และปี 1985 รวมไปถึงที่โรมาเนียเมื่อปี 1993 ซึ่งทั้งสามรอบที่ผ่านมานั้นพวกเขาต้องอกหักในการชิงตั๋วเพลย์ออฟใบสุดท้ายทุกครั้ง แต่กับครั้งนี้มันแตกต่างออกไปด้วยนักเตะที่เรียกว่าเป็นกลุ่มแข้งยุคทอง ที่สานฝันให้กับแข้งรุ่นก่อน ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม

การผ่านเข้าไปเล่นศึกยูโร 2016 เป็นการสิ้นสุดการรอคอยที่จะเข้ารวมฟุตบอลรายการระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปีของ ทีมชาติเวลส์ และการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศที่ประเทศฝรั่งเศสก็ถือว่าเป็นการสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวงการฟุตบอลเวลส์ จากนั้นพวกเขาสามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลยูโร 2020 ได้อีกครั้ง แต่สำหรับฟุตบอลโลกแล้วมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่สามารถทำได้ จนพวกเขาทำสำเร็จในครั้งนี้และเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ที่ประเทศกาตาร์แล้ว

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ ที่นี่